7 ประเภทกระดาษที่มืออาชีพเลือกใช้ พร้อมวิธีเลือกให้เหมาะกับงานพิมพ์
รู้จัก 7 ประเภทกระดาษยอดนิยม พร้อมวิธีเลือกให้เหมาะกับงานพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ เลือกแบบไหนให้ภาพลักษณ์แบรนด์ดูมืออาชีพ
กระดาษอาร์ตมันคืออะไร? เปรียบเทียบคุณสมบัติ ข้อดี-ข้อเสีย และการใช้งาน พร้อมแนะนำร้านขายกระดาษอาร์ตมัน ราคาถูก
ถ้าคุณเคยเห็น นิตยสารที่มีภาพสีสดใส หรือ โบรชัวร์ที่เงางามดูพรีเมียม นั่นแหละคืองานพิมพ์ที่ใช้ กระดาษอาร์ตมัน ซึ่งเป็นกระดาษที่ได้รับความนิยมในอุตสาหกรรมการพิมพ์เพราะให้ คุณภาพของภาพที่คมชัดและดูมืออาชีพ แต่กระดาษชนิดนี้มีอะไรพิเศษ? และแตกต่างจาก กระดาษอาร์ตด้าน อย่างไร? มาไขข้อข้องใจกัน
กระดาษอาร์ตมัน (Glossy Art Paper) เป็นกระดาษที่มี พื้นผิวมันเงา ผ่านการเคลือบพิเศษเพื่อช่วยให้สีของงานพิมพ์ดูสดใสและคมชัดขึ้น มักใช้สำหรับ งานพิมพ์คุณภาพสูง ที่ต้องการรายละเอียดของภาพและสีที่โดดเด่น เช่น โปสเตอร์ , นิตยสาร , โบรชัวร์ หรือแคตตาล็อกสินค้า
ถึงแม้อาร์ตมันจะเด่นเรื่องความเงา แต่ถ้าอยากเปรียบเทียบกับกระดาษชนิดอื่นให้ครอบคลุม แนะนำให้ดู บทสรุปชนิดกระดาษยอดนิยมที่มืออาชีพเลือกใช้
แม้ชื่อจะคล้ายกัน แต่ กระดาษอาร์ตมัน (Glossy Art Paper) และกระดาษอาร์ตด้าน (Matte Art Paper) มีความแตกต่างกันในเรื่องของพื้นผิวและการใช้งาน มาดูตารางเปรียบเทียบเพื่อเข้าใจได้ง่ายขึ้น
คุณสมบัติ | กระดาษอาร์ตมัน (Glossy) | กระดาษอาร์ตด้าน (Matte) |
พื้นผิว | มันเงา สะท้อนแสง | ด้าน ไม่สะท้อนแสง |
คุณภาพของสี | สีสด คมชัดมาก | สีดูซอฟต์และเป็นธรรมชาติ |
ความสามารถในการกันน้ำ | กันน้ำได้บางส่วน | กันน้ำได้น้อยกว่า |
รอยนิ้วมือ | เห็นรอยนิ้วมือได้ง่าย | ไม่เกิดรอยนิ้วมือมากนัก |
เหมาะกับงานประเภทไหน? | นิตยสาร, โปสเตอร์, โบรชัวร์, ภาพถ่าย | หนังสือ, นามบัตร, แผ่นพับที่ต้องการลุคหรู |
จากตารางจะเห็นว่า กระดาษอาร์ตมัน เหมาะสำหรับงานที่ต้องการให้ สีสดใส คมชัด และมีความเงางาม ส่วน กระดาษอาร์ตด้าน จะเหมาะกับงานที่ต้องการลุคเรียบหรู ไม่สะท้อนแสง และอ่านง่ายกว่า
กระดาษอาร์ตมันเหมาะกับงานพิมพ์ที่ต้องการสีสด คมชัด เช่น ใบปลิวหรือโบรชัวร์ แต่ถ้างานของคุณคือกล่องสินค้า ลองดูความแตกต่างของ อาร์ตมันกับกล่องแป้ง ที่เหมาะกับการใช้งานจริงคนละแบบ
กระดาษอาร์ตมันมีหลายประเภท โดยสามารถแบ่งตาม ความหนา (แกรม) และ ขนาดมาตรฐาน ที่นิยมใช้ในงานพิมพ์ต่างๆ เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานแต่ละประเภท
กระดาษอาร์ตมันมีช่วงความหนาที่หลากหลาย โดยทั่วไปเริ่มต้นที่ 90 แกรม และสามารถหนาได้ถึง 350 แกรม ทั้งนี้แต่ละระดับความหนาจะเหมาะกับงานพิมพ์ที่แตกต่างกัน แต่ที่นิยมใช้
หมายเหตุ
กระดาษอาร์ตมันมีหลายขนาดให้เลือกใช้งาน ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของงานพิมพ์
ขนาดกระดาษ | หน่วย (มม.) | การใช้งานที่เหมาะสม |
กระดาษอาร์ตมัน a4 | 210 x 297 มม. | โบรชัวร์ , รายงาน , ใบปลิว |
กระดาษอาร์ตมัน a3 | 297 x 420 มม. | โปสเตอร์ , ป้ายโฆษณาขนาดเล็ก |
กระดาษอาร์ตมัน a5 | 148 x 210 มม. | หนังสือขนาดเล็ก , โบรชัวร์ |
ข้อควรรู้ : เนื่องจากพื้นผิวเงา กระดาษอาร์ตมันอาจเกิด รอยนิ้วมือได้ง่าย และมีการสะท้อนแสงสูง อาจไม่เหมาะกับงานพิมพ์ที่ต้องการให้อ่านง่าย
ข้อควรรู้ : ถ้าพิมพ์ด้วยเครื่อง อิงค์เจ็ท (Inkjet) หมึกอาจซึมช้าและเกิดรอยเปื้อนได้ง่าย ควรใช้เครื่องพิมพ์ เลเซอร์ เพื่อคุณภาพที่ดีที่สุด
วิธีป้องกันความเสียหายจากน้ำ
ถ้าคุณเคยถือโบรชัวร์มันเงาสีสดๆ หรือเปิดอ่านนิตยสารที่มีภาพคมชัดสุดๆ นั่นแหละคือผลงานของกระดาษอาร์ตมัน มาดูกันว่าถูกนำไปใช้ทำอะไรได้บ้าง
ลองนึกถึงนิตยสารแฟชั่นหรือวารสารที่เต็มไปด้วยภาพถ่ายความละเอียดสูง ถ้ากระดาษไม่ดีพอ สีอาจจะซีด ภาพอาจจะเบลอ หรือกระดาษอาจซึมหมึกมากเกินไป กระดาษอาร์ตมันแก้ปัญหานี้ได้ เพราะมันเคลือบผิวให้เรียบเนียน ทำให้หมึกพิมพ์ไม่ซึมทะลุ และสีที่ออกมาดูสดใสกว่ากระดาษธรรมดา
ตัวอย่างการใช้งาน
ทำไมต้องใช้กระดาษอาร์ตมัน?
เคยรับโบรชัวร์ของร้านอาหาร หรือดูแคตตาล็อกของแบรนด์เสื้อผ้าไหม? สิ่งเหล่านี้ต้องใช้กระดาษที่ช่วยให้ภาพสินค้าดูสวย โดดเด่น และน่าสนใจ กระดาษอาร์ตมันเป็นตัวเลือกที่ใช่ เพราะมันช่วยให้ภาพสินค้าดูมีมิติขึ้น แสงสะท้อนช่วยเพิ่มความเงางาม และกระดาษสามารถรองรับหมึกพิมพ์สีได้ดี
ตัวอย่างการใช้งาน
ทำไมต้องใช้กระดาษอาร์ตมัน?
ถ้าคุณเคยเห็นโปสเตอร์หนังติดอยู่ที่โรงภาพยนตร์ หรือป้ายโปรโมชั่นในร้านค้า กระดาษอาร์ตมันมักเป็นตัวเลือกหลักที่ใช้พิมพ์ เพราะมันให้สีที่คมชัด สามารถเคลือบ UV หรือเคลือบมันเพิ่มเติมได้เพื่อเพิ่มความทนทาน
ตัวอย่างการใช้งาน
ทำไมต้องใช้กระดาษอาร์ตมัน?
กระดาษอาร์ตมันเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับ โบรชัวร์ แผ่นพับ นิตยสาร และบรรจุภัณฑ์ แต่การเลือกใช้กระดาษที่เหมาะสมต้องคำนึงถึง ขนาด ความหนา (แกรม) และวิธีการพิมพ์ หากต้องการ พิมพ์เอง หรือ ใช้บริการโรงพิมพ์ ควรพิจารณาความคุ้มค่าและคุณภาพของงานพิมพ์
ขนาดสำเร็จที่นิยมใช้สำหรับกระดาษอาร์ตมัน
ประเภทงานพิมพ์ | ขนาดมาตรฐาน (มม.) | ขนาดมาตรฐาน (นิ้ว) |
ใบปลิว (Flyer) | A5 (148 × 210 มม.) | 5.8 × 8.3 นิ้ว |
แผ่นพับ 2 พับ (Brochure) | A4 (210 × 297 มม.) | 8.3 × 11.7 นิ้ว |
แผ่นพับ 3 พับ (Tri-fold) | A4 หรือ 297 × 630 มม. | 8.3 × 24.8 นิ้ว |
โปสเตอร์ขนาดเล็ก | A3 (297 × 420 มม.) | 11.7 × 16.5 นิ้ว |
โปสเตอร์ขนาดใหญ่ | A2, A1 | 16.5 × 23.4 นิ้วขึ้นไป |
ข้อแนะนำ
เครื่องพิมพ์ที่รองรับกระดาษอาร์ตมัน
ประเภทเครื่องพิมพ์ | เหมาะกับแกรม | หมึกที่ใช้ |
เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท (Inkjet Printer) | 90-160 แกรม | หมึกน้ำ หรือ หมึกกันน้ำ (Pigment Ink) |
เครื่องพิมพ์เลเซอร์ (Laser Printer) | 130-260 แกรม | หมึกโทนเนอร์ |
เครื่องพิมพ์ดิจิตอลขนาดเล็ก (Digital Printing) | 130-260 แกรม | หมึกโทนเนอร์/UV |
ข้อแนะนำ
ปัญหาการพิมพ์เอง
หากต้องการพิมพ์จำนวนมาก 500 ใบ แนะนำให้ใช้บริการโรงพิมพ์ เพื่อให้ต้นทุนต่อแผ่นถูกลงและคุณภาพสูงขึ้น
เทคนิคการพิมพ์ที่ใช้ในโรงพิมพ์
วิธีพิมพ์ | เหมาะกับงาน | คุณภาพพิมพ์ | ขนาดที่กำหนดเอง |
Digital Printing | ปริมาณน้อย (100-500 แผ่น) | คุณภาพสูง สีสด คมชัด | ได้ |
Offset Printing | ปริมาณมาก (1,000+ แผ่น) | คุณภาพสูง ราคาถูกต่อแผ่น | ได้ |
ทำไมต้องใช้บริการโรงพิมพ์?
หากต้องการสั่งพิมพ์โบรชัวร์ ใบปลิว หรือแผ่นพับจำนวนมาก Thaiprintshop เป็นโรงพิมพ์ที่ให้บริการทั้ง Digital และ Offset Printing สามารถพิมพ์ขนาด Custom ได้ และมีบริการออกแบบเพิ่มเติม
ปัจจัย | พิมพ์เองที่บ้าน (Inkjet / Laser / Digital ขนาดเล็ก) | พิมพ์กับโรงพิมพ์ (Offset / Digital Large Scale) |
ขนาดกระดาษ | รองรับขนาดมาตรฐาน (A4, A5, A3) | กำหนดขนาดเองได้ |
ปริมาณการพิมพ์ | เหมาะกับปริมาณน้อย (100-500 แผ่น) | เหมาะกับปริมาณมาก (500-10,000 แผ่นขึ้นไป) |
ต้นทุนต่อแผ่น | แพงกว่า (เพราะใช้หมึกพิมพ์เอง) | ถูกลงเมื่อพิมพ์จำนวนมาก |
คุณภาพสี | ขึ้นอยู่กับเครื่องพิมพ์และหมึกที่ใช้ | สีคมชัดกว่า โดยเฉพาะงาน Offset |
ความสะดวก | ทำได้ทันที ไม่ต้องรอผลิต | ต้องใช้เวลาผลิตและจัดส่ง |
ตัวเลือกกระดาษ | จำกัดแกรม (สูงสุด 260 แกรมในบางรุ่น) | รองรับกระดาษหนา (300-350 แกรม) |
รูปแบบพิเศษ | ไม่รองรับเคลือบเงา, ไดคัท, ปั๊มฟอยล์ | สามารถทำเคลือบเงา, ไดคัท, ปั๊มฟอยล์ได้ |
ประเภทเครื่องพิมพ์ | เหมาะกับกระดาษอาร์ตมันหรือไม่? | การใช้งานที่แนะนำ |
เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท (Inkjet Printer) | ใช้ได้ แต่หมึกอาจแห้งช้าและเลอะง่าย | งานพิมพ์รูปภาพ , การ์ดขนาดเล็ก |
เครื่องพิมพ์เลเซอร์ (Laser Printer) | เหมาะมาก สีคมชัด แห้งเร็ว | โบรชัวร์ , นิตยสาร , รายงานสี |
เครื่องพิมพ์ดิจิทัล (Digital Printing Press) | เหมาะกับงานพิมพ์จำนวนน้อย คุณภาพสูง | แคตตาล็อก , นามบัตร , หนังสือเล่มเล็ก |
เครื่องพิมพ์ออฟเซ็ต (Offset Printer) | ดีที่สุด สีสวยและคงทน | งานพิมพ์ปริมาณมาก เช่น นิตยสาร โปสเตอร์ |
กระดาษอาร์ตมันมีพื้นผิวมันเงา ซึ่งทำให้หมึกแห้งช้ากว่ากระดาษทั่วไป วิธีต่อไปนี้จะช่วยให้คุณ พิมพ์ได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องรอยเลอะ
กระดาษสำเร็จรูป คือ กระดาษอาร์ตมันที่ขายเป็นรีม (500 แผ่น) หรือแยกขายเป็นแผ่น ใช้สำหรับ เครื่องพิมพ์ทั่วไป เช่น อิงค์เจ็ท , เลเซอร์ เหมาะสำหรับงานพิมพ์จำนวนน้อย
ปัจจัยที่มีผลต่อราคากระดาษอาร์ตมันแบบสำเร็จรูป
ชื่อร้านค้า | ความหนา (แกรม) | ขนาด | จำนวน (แผ่น) | ราคา (บาท) |
dtawan | 130 แกรม | A4 | 100 | 80 |
shopee | 130 แกรม | A4 | 100 | 64 |
finopaper | 128 แกรม | A4 | 250 | 125 |
OfficeMate | 105 แกรม | A4 | 100 | 146 |
thailandsub | 160 แกรม | A4 | 100 | 170 |
กระดาษอาร์ตมันที่ใช้ในโรงพิมพ์คือ กระดาษที่ใช้ในเครื่องพิมพ์ Offset หรือ Digital Printing มักขายเป็น รีม หรือแบบเป็นม้วนขนาดใหญ่ เพื่อใช้พิมพ์งานปริมาณมาก เช่น นิตยสาร โบรชัวร์ แคตตาล็อก กล่องบรรจุภัณฑ์
ปัจจัยที่มีผลต่อราคากระดาษอาร์ตมันในโรงพิมพ์
ความหนา (แกรม) | ขนาด (นิ้ว) | จำนวน (รีม / ม้วน) | ราคาโดยประมาณ |
130 แกรม | 25×36 นิ้ว | 1 รีม (500 แผ่น) | 1,000 – 1,500 บาท |
160 แกรม | 25×36 นิ้ว | 1 รีม (500 แผ่น) | 1,200 – 1,800 บาท |
200 แกรม | 25×36 นิ้ว | 1 รีม (500 แผ่น) | 1,500 – 2,000 บาท |
260 แกรม | 31×43 นิ้ว | 1 รีม (500 แผ่น) | 2,500 – 3,500 บาท |
300 แกรม | 31×43 นิ้ว | 1 รีม (500 แผ่น) | 3,500 – 4,500 บาท |
350 แกรม | ม้วนใหญ่ | 1 ม้วน | 5,000 – 10,000 บาท |
หากคุณเคยพิมพ์ภาพถ่ายหรืองานออกแบบกราฟิก อาจเคยเจอคำถามว่า ควรใช้กระดาษอาร์ตมัน หรือกระดาษโฟโต้? ทั้งสองแบบมีพื้นผิวมันเงาและให้สีสดใส แต่วัตถุประสงค์และคุณสมบัติแตกต่างกันชัดเจน เราจะมาเปรียบเทียบกันแบบเข้าใจง่าย เพื่อช่วยให้คุณเลือกใช้กระดาษได้เหมาะกับงานของตัวเอง
คุณสมบัติ | กระดาษอาร์ตมัน | กระดาษโฟโต้ |
พื้นผิว | มันเงา แต่ไม่มันวาวมาก | มันวาวสูง (Glossy) หรือกึ่งเงา (Semi-gloss) |
คุณภาพการพิมพ์ | สีสดใส คมชัด แต่ไม่เน้นรายละเอียดสูง | รายละเอียดสูง คมชัดมาก เหมาะกับภาพถ่าย |
การดูดซึมหมึก | ซึมซับหมึกได้ดี แต่สีอาจไม่สดเท่ากระดาษโฟโต้ | เคลือบพิเศษ ป้องกันหมึกซึม ทำให้สีสดมาก |
กันน้ำ | ไม่กันน้ำ 100% อาจเกิดรอยเมื่อโดนน้ำ | ส่วนใหญ่กันน้ำได้ เพราะเคลือบพิเศษ |
ความหนา (แกรมที่นิยมใช้) | 130, 160, 260 แกรม | 180, 210, 260 แกรมขึ้นไป |
เหมาะกับงานพิมพ์ประเภทไหน? | โบรชัวร์, นิตยสาร, ปกหนังสือ, การ์ด | ภาพถ่าย, โปสเตอร์, งานพิมพ์คุณภาพสูง |
ราคา | ถูกกว่ากระดาษโฟโต้ | ราคาสูงกว่า เพราะคุณภาพการพิมพ์ที่ดีกว่า |
เมื่อพูดถึงงานพิมพ์ที่ต้องการ ความคมชัดและคุณภาพสูง กระดาษอาร์ตมันเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุด เนื่องจากพื้นผิวมันเงาช่วยให้สีติดดีและคมชัด ทำให้เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความสวยงาม เช่น โบรชัวร์ นิตยสาร โปสเตอร์ และแคตตาล็อกสินค้า
กระดาษอาร์ตมันมีให้เลือกหลายขนาดและความหนา (แกรม) การเลือกใช้ที่ถูกต้องจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด แม้ว่ากระดาษอาร์ตมันจะเป็นที่นิยม แต่การพิจารณาเปรียบเทียบกับกระดาษชนิดอื่นๆ ก็เป็นสิ่งสำคัญ
ไม่ว่าคุณจะใช้กระดาษอาร์ตมันสำหรับงานพิมพ์แบบไหน การเข้าใจคุณสมบัติและเลือกใช้อย่างถูกต้องจะช่วยให้ได้งานพิมพ์ที่สวยงามและคุ้มค่ามากที่สุด
กระดาษอาร์ตมันและกระดาษโฟโต้มีลักษณะที่คล้ายกัน แต่ไม่เหมือนกัน กระดาษโฟโต้มีการเคลือบพิเศษที่ทำให้ภาพมีสีสดและกันน้ำได้มากกว่า ในขณะที่กระดาษอาร์ตมันมีพื้นผิวมันเงา แต่ไม่สามารถกันน้ำได้ 100% และให้สีสดใสในงานพิมพ์ทั่วไป เช่น นิตยสารและโบรชัวร์
กระดาษอาร์ตมันสามารถพิมพ์ด้วยเครื่องอิงค์เจ็ทได้ แต่ไม่แนะนำ เนื่องจากพื้นผิวมันเงาทำให้หมึกซึมลงบนกระดาษได้ไม่ดีเท่ากับกระดาษที่ออกแบบมาสำหรับอิงค์เจ็ทโดยเฉพาะ หากต้องการผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรใช้เครื่องพิมพ์เลเซอร์หรือพิมพ์ระบบออฟเซ็ต
กระดาษอาร์ตมันสามารถกันน้ำได้ในระดับหนึ่ง แต่ไม่กันน้ำ 100% หากโดนน้ำอาจเกิดรอยเปื้อนหรือทำให้กระดาษเสียรูปได้ หากต้องการกระดาษที่กันน้ำ ควรเลือกกระดาษโฟโต้ที่มีการเคลือบพิเศษ หรือใช้การเคลือบฟิล์มกันน้ำเพิ่มเติม
กระดาษอาร์ตมันและอาร์ตการ์ดมีความแตกต่างกันในด้านความหนาและการใช้งาน กระดาษอาร์ตมันมีความบางกว่า เหมาะสำหรับงานพิมพ์เช่น โบรชัวร์ นิตยสาร และโปสเตอร์ ส่วนอาร์ตการ์ดมีความหนาและแข็งกว่า นิยมใช้ทำปกหนังสือ นามบัตร หรือบรรจุภัณฑ์ที่ต้องการความแข็งแรงและทนทานมากขึ้น