7 ประเภทกระดาษที่มืออาชีพเลือกใช้ พร้อมวิธีเลือกให้เหมาะกับงานพิมพ์
รู้จัก 7 ประเภทกระดาษยอดนิยม พร้อมวิธีเลือกให้เหมาะกับงานพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ เลือกแบบไหนให้ภาพลักษณ์แบรนด์ดูมืออาชีพ
อยากรู้ว่ากระดาษลูกฟูก คืออะไร? บทความนี้สรุปประเภท ประโยชน์ และการใช้งาน พร้อมไอเดีย DIY เข้าใจง่ายใน 5 นาที!
กระดาษลูกฟูก (Corrugated Paper) เป็นวัสดุสำคัญที่ใช้ในการผลิตกล่องบรรจุภัณฑ์ ซึ่งเราอาจพบเห็นได้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นกล่องพัสดุ กล่องสินค้า หรือแม้แต่งานประดิษฐ์จากกระดาษ แต่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่ากระดาษลูกฟูกนั้นมีหลายประเภท และมีคุณสมบัติเฉพาะที่แตกต่างกันออกไป
บทความนี้จะอธิบายทุกเรื่องเกี่ยวกับกระดาษลูกฟูกแบบเข้าใจง่าย ครบถ้วน เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นหรือเจ้าของธุรกิจที่ต้องการเลือกใช้วัสดุบรรจุภัณฑ์อย่างเหมาะสม
กระดาษลูกฟูก คือ กระดาษชนิดพิเศษที่ประกอบด้วยกระดาษสองประเภท ได้แก่ กระดาษลอน (Fluting Medium) และกระดาษเรียบ (Linerboard) ซึ่งนำมาประกบกันเป็นชั้นๆ เพื่อเพิ่มความแข็งแรง ความยืดหยุ่น และการรองรับแรงกระแทก
โดยทั่วไปจะมีทั้งแบบสองชั้น สามชั้น และห้าชั้น ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการใช้งาน เช่น บรรจุภัณฑ์ทั่วไป บรรจุสินค้าน้ำหนักมาก หรือใช้ในงานตกแต่ง
กระดาษลูกฟูกมีโครงสร้างพื้นฐานที่ประกอบด้วย ชั้นของกระดาษสองประเภทหลัก ได้แก่
กระดาษลูกฟูกสามารถจัดเรียงโครงสร้างได้หลายแบบ ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงที่ต้องการในการใช้งาน เช่น
วัสดุหลักในการผลิตกระดาษลูกฟูกคือ กระดาษคราฟต์ (Kraft Paper) ผลิตจากเยื่อไม้ธรรมชาติหรือเยื่อรีไซเคิล ชนิดของกระดาษที่ใช้ผลิตกระดาษลูกฟูก ขึ้นอยู่กับบทบาทของกระดาษในโครงสร้าง ได้แก่ กระดาษทำผิวกล่อง และกระดาษทำลอนลูกฟูก โดยแต่ละชนิดจะมี “น้ำหนักมาตรฐาน (แกรมต่อตารางเมตร)” แตกต่างกัน ซึ่งมีผลต่อความแข็งแรงของกล่องโดยตรง
กระดาษกลุ่มนี้ใช้เป็นผิวด้านนอกและด้านในของกระดาษลูกฟูก มีหน้าที่ป้องกันแรงกระแทก และเป็นพื้นผิวสำหรับงานพิมพ์หรือสร้างแบรนด์
ประเภทกระดาษ | รายละเอียด | น้ำหนักมาตรฐาน (แกรม/ตร.ม.) |
KS (Kraft Strong) | กระดาษคราฟต์สีน้ำตาลเข้ม แข็งแรงมาก | 140, 170 |
KW (Kraft White) | กระดาษคราฟต์สีขาว เหมาะกับงานพิมพ์ | 140, 170 |
WK (White Kraft) | หน้าขาว หลังน้ำตาล ผสมคุณสมบัติของ KS + KW | 140, 170 |
KA (Kraft A) | กระดาษคราฟต์เกรดกลาง เหนียวพอเหมาะ ราคาประหยัด | 125, 150, 185, 230 |
KI (Kraft Imitation) | กระดาษคราฟต์เกรดเลียนแบบ เหมาะกับกล่องเบา | 125, 150, 185 |
กระดาษกลุ่มนี้ใช้ทำเป็นลอนลูกฟูกที่อยู่ชั้นกลางของแผ่นกระดาษ ช่วยรองรับแรงกด แรงกระแทก และช่วยให้กล่องคืนรูปได้ดี
ประเภทกระดาษ | รายละเอียด | น้ำหนักมาตรฐาน (แกรม/ตร.ม.) |
CM (Corrugating Medium) | กระดาษทำลอนมาตรฐาน เหนียว ยืดหยุ่น | 105, 115, 125 |
CA (Corrugating Alternative) | กระดาษลอนชนิดประหยัด สำหรับงานทั่วไป | 105, 115, 125 |
ข้อควรรู้เพิ่มเติม
ลอนลูกฟูก (Flute) เป็นส่วนสำคัญที่อยู่ตรงกลางระหว่างกระดาษเรียบทั้งสองด้าน ทำหน้าที่รองรับแรงกด แรงกระแทก และให้ความยืดหยุ่นกับวัสดุ โดยแต่ละประเภทของลอนจะมีความสูง ความหนา และคุณสมบัติที่แตกต่างกันตามลักษณะการใช้งาน
ประเภทลอน | ลักษณะโครงสร้าง | ความหนาโดยประมาณ | จุดเด่น | เหมาะสำหรับ |
ลอน A | เป็นลอนขนาดใหญ่ที่สุด มีลักษณะโค้งสูง | 4.5–5.0 มม. | รองรับแรงกระแทกได้ดีเยี่ยม | กล่องที่ต้องการปกป้องสินค้าอย่างมาก เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า |
ลอน B | ลอนขนาดเล็ก ความสูงน้อยกว่าลอน A | 2.2–3.0 มม. | โครงสร้างแน่น แข็งแรง ทนแรงกด | กล่องสินค้าทั่วไปในอุตสาหกรรม |
ลอน C | ขนาดลอนอยู่ระหว่าง A และ B | 3.5–4.0 มม. | สมดุลทั้งความแข็งแรงและการป้องกัน | กล่องสำหรับเฟอร์นิเจอร์ และสินค้าขนาดกลาง |
ลอน E | ลอนละเอียดมาก ผิวเรียบ น้ำหนักเบา | 1.0–1.8 มม. | เหมาะกับงานพิมพ์และดีไซน์ | กล่องไดคัท กล่องสินค้าพรีเมียม |
ลอน BC | เป็นการผสานระหว่างลอน B และ C ในแผ่นเดียว | ประมาณ 6.5–7.0 มม. | แข็งแรงพิเศษ รองรับน้ำหนักได้สูง | กล่องสินค้าหนัก หรือสินค้าส่งออกต่างประเทศ |
หมายเหตุเพิ่มเติม
ลูกฟูกลอน B นิยมใช้กับกล่องสินค้าหนัก ส่วนลอน E เหมาะกับกล่องขนาดเล็ก ถ้าคุณต้องการทำกล่องที่ดูหรูแต่ยังแข็งแรง ให้ดูทางเลือกของ กระดาษจั่วปัง ซึ่งแม้ไม่รองรับแรงกระแทกมาก แต่ให้ภาพลักษณ์ระดับ Hi-End
กระดาษลูกฟูกมีคุณสมบัติเด่นหลายประการที่ทำให้เหมาะกับการใช้งานในด้านบรรจุภัณฑ์ งานอุตสาหกรรม และงานประดิษฐ์ต่างๆ ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้ไม่ได้มีอยู่ในกระดาษทั่วไป โดยสามารถสรุปได้ดังนี้
โครงสร้างลอนของกระดาษลูกฟูกช่วยดูดซับแรงกดทับ แรงกระแทก และแรงสั่นสะเทือน ทำให้สินค้าภายในปลอดภัยแม้ในระหว่างการขนส่ง
แม้จะมีความแข็งแรงสูง แต่กระดาษลูกฟูกมีน้ำหนักเบากว่าวัสดุบรรจุภัณฑ์ประเภทอื่น เช่น ไม้หรือพลาสติก ช่วยลดต้นทุนด้านค่าขนส่งและประหยัดพลังงานในการขนย้าย
สามารถผลิตเป็นกล่องได้หลายขนาด หรือขึ้นรูปเป็นบรรจุภัณฑ์เฉพาะสินค้าแต่ละประเภท เช่น กล่องไดคัท กล่องฝาชน กล่องฝาเกย
พื้นผิวของกระดาษลูกฟูกสามารถพิมพ์ลวดลาย โลโก้ หรือข้อความได้ดี โดยเฉพาะเมื่อนำไปเคลือบหรือใช้ร่วมกับกระดาษเรียบคุณภาพสูง เหมาะสำหรับกล่องสินค้าเชิงพาณิชย์
กระดาษลูกฟูกส่วนใหญ่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิล และสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้หลายครั้ง ช่วยลดขยะและลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ
เมื่อเทียบกับวัสดุบรรจุภัณฑ์ชนิดอื่น กระดาษลูกฟูกถือว่ามีต้นทุนต่ำ ทั้งในด้านวัสดุ กระบวนการผลิต และค่าขนส่ง
กระดาษลูกฟูกสามารถกันความชื้นหรือของเหลวได้ หากผ่านการเคลือบด้วยสารกันน้ำ หรือใช้กระดาษเรียบชนิดพิเศษในการผลิต
สำหรับผู้ที่ต้องเลือกกระดาษกล่องอย่างแม่นยำ ควรรู้จักวัสดุอื่นๆ ด้วย
→ อ่าน คู่มือสรุปประเภทกระดาษทุกชนิด เพื่อเปรียบเทียบแต่ละแบบ
กระดาษลูกฟูกไม่ได้เป็นเพียงวัสดุที่ใช้ทำกล่องเท่านั้น แต่ยังสามารถนำไปใช้ในหลายรูปแบบ ทั้งในภาคธุรกิจ งานอุตสาหกรรม ไปจนถึงงานศิลปะหรือการใช้งานในชีวิตประจำวัน ดังนี้
กระดาษลูกฟูกเป็นวัสดุหลักในการทำกล่องสินค้า กล่องไปรษณีย์ กล่องขนส่ง และกล่องบรรจุภัณ์ต่างๆ ด้วยความแข็งแรงและน้ำหนักเบา จึงช่วยปกป้องสินค้าและประหยัดต้นทุนการขนส่ง
คุณสมบัติกันกระแทกของกระดาษลอนช่วยลดความเสียหายของสินค้าได้ดี โดยเฉพาะสินค้าเปราะบาง เช่น แก้ว เซรามิก หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
นอกจากทำเป็นกล่องแล้ว กระดาษลูกฟูกแบบม้วนยังนิยมนำมาใช้ห่อหุ้มสินค้า แทรกระหว่างชั้นสินค้า หรือรองก้นกล่อง เพื่อเพิ่มความหนาแน่นและกันกระแทก
สามารถพิมพ์ลาย ขึ้นรูป หรือทำเป็น Display สินค้า ป้ายโชว์ บอร์ดจัดแสดงสินค้า รวมถึงใช้ในการจัดบูธแสดงงานได้อย่างสร้างสรรค์
กระดาษลูกฟูกสามารถนำไปสร้างเป็นของเล่น ของตกแต่งบ้าน ฉากถ่ายรูป เฟอร์นิเจอร์จำลอง หรือแม้แต่โมเดลจำลองสำหรับการศึกษา เพราะสามารถตัด พับ และประกอบได้ง่าย
กล่องกระดาษลูกฟูกถูกใช้แพร่หลายในอุตสาหกรรมเกษตร เช่น กล่องใส่ผลไม้สด ผัก หรือสินค้าส่งออก โดยเน้นเรื่องระบายอากาศ น้ำหนักเบา และสะดวกต่อการจัดเก็บ
ธุรกิจที่หันมาใช้กระดาษลูกฟูกแทนวัสดุพลาสติกมักจะได้รับการมองว่าใส่ใจสิ่งแวดล้อม ช่วยสร้างความประทับใจแก่ผู้บริโภคยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน
การเลือกกระดาษลูกฟูกให้เหมาะสม ไม่ได้ขึ้นอยู่แค่กับขนาดของกล่องหรือราคาวัสดุเท่านั้น แต่ยังต้องคำนึงถึงประเภทของสินค้า น้ำหนัก ความเปราะบาง การขนส่ง และภาพลักษณ์ของสินค้า โดยทั่วไปสามารถพิจารณาได้จากปัจจัยหลักๆ ต่อไปนี้
น้ำหนักสินค้า | แนะนำโครงสร้าง | ประเภทลอนที่เหมาะสม |
น้ำหนักเบา (ไม่เกิน 1 กก.) | กระดาษลูกฟูก 3 ชั้น | ลอน B หรือ E |
น้ำหนักปานกลาง (1–10 กก.) | กระดาษลูกฟูก 3–5 ชั้น | ลอน C หรือ BC |
น้ำหนักมาก (10 กก. ขึ้นไป) | กระดาษลูกฟูก 5–7 ชั้น | ลอน BC หรือ AC |
การเลือกขนาดของกระดาษลูกฟูกที่เหมาะสมมีความสำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะในด้านการออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้พอดีกับสินค้า ประหยัดวัสดุ และสะดวกต่อการผลิตในระบบอุตสาหกรรม ซึ่งโดยทั่วไปกระดาษลูกฟูกมีให้เลือกทั้งแบบ แผ่น และ ม้วน ตามลักษณะการใช้งาน
กระดาษลูกฟูกแบบแผ่นมักใช้สำหรับการผลิตกล่องหรือบรรจุภัณฑ์ที่ต้องมีการขึ้นรูปตามขนาดเฉพาะ โดยมีขนาดที่นิยมในท้องตลาด ดังนี้
ขนาดมาตรฐาน (กว้าง x ยาว) | หน่วย | หมายเหตุ |
120 x 240 ซม. | เซนติเมตร | ขนาดมาตรฐานสำหรับโรงงานผลิต |
100 x 200 ซม. | เซนติเมตร | ใช้งานทั่วไป ประหยัดพื้นที่ |
80 x 120 ซม. | เซนติเมตร | ใช้ทำกล่องขนาดกลาง-เล็ก |
สั่งตัดตามแบบ | กำหนดเอง | สำหรับงานเฉพาะทางหรือ OEM |
หมายเหตุ : ความหนาของกระดาษจะแตกต่างกันตามประเภทลอน (เช่น ลอน B หนาประมาณ 3 มม. , ลอน C หนาประมาณ 4 มม.)
กระดาษลูกฟูกแบบม้วนมักใช้ในงานห่อหุ้ม กันกระแทก หรือรองสินค้า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้กระดาษลูกฟูกในปริมาณมาก และต้องการความยืดหยุ่นในการตัดตามความยาว
ความกว้าง | ความยาว | ประเภทลอน |
1.0 เมตร | 100 เมตร | ลอน B หรือ E |
1.2 เมตร | 100 เมตร | ลอน B หรือ C |
0.9 เมตร | 50 เมตร | ลอน E (บางพิเศษ) |
ข้อดีของกระดาษลูกฟูกแบบม้วน
ในอุตสาหกรรมผลิตกล่อง กระดาษลูกฟูกจะถูกตัดและพับตามแบบพิมพ์ ซึ่งมีขนาดที่ใช้กันบ่อย เช่น
ข้อควรรู้ก่อนสั่งซื้อกระดาษลูกฟูก
กระดาษลูกฟูกเป็นวัสดุที่ใช้งานได้หลากหลาย ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การทำกล่องพัสดุหรือบรรจุภัณฑ์สินค้าเท่านั้น แต่ยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในภาคส่วนต่างๆ ได้อย่างยืดหยุ่น ทั้งเชิงพาณิชย์ เชิงสร้างสรรค์ และอุตสาหกรรม
กระดาษลูกฟูกเป็นกระดาษที่ประกอบด้วยกระดาษลอน (Fluting Medium) และกระดาษเรียบ (Linerboard) ใช้ผลิตกล่องบรรจุภัณฑ์ แข็งแรง น้ำหนักเบา และรีไซเคิลได้ เหมาะทั้งสำหรับใช้ในเชิงธุรกิจและงานประดิษฐ์ทั่วไป การทำความเข้าใจประเภทของกระดาษลูกฟูก รวมถึงโครงสร้างและลอนต่างๆ จะช่วยให้คุณสามารถเลือกใช้งานได้อย่างเหมาะสม ประหยัด และมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ทำจากกระดาษคราฟต์ที่ผ่านการรีไซเคิลหรือจากเยื่อไม้ใหม่ (Virgin Kraft) แล้วนำมารีดและขึ้นรูปให้เป็นลอนก่อนนำมาประกบกับกระดาษเรียบ
สามารถรีไซเคิลได้ 100% โดยต้องไม่มีการปนเปื้อนจากน้ำมันหรือสารเคมี
โดยทั่วไปมีทั้งแบบแผ่น (ขนาด 120 x 240 ซม.) และแบบม้วน (กว้าง 1 เมตร ยาว 100 เมตร)
ราคากระดาษลูกฟูกเริ่มต้นตั้งแต่ 20 บาทต่อแผ่น ขึ้นอยู่กับขนาด ความหนา และปริมาณการสั่งซื้อ