Inkjet vs Laser Printer – เครื่องไหนดีกว่าสำหรับงานของคุณ?
Inkjet vs Laser Printer เลือกเครื่องพิมพ์ที่ใช่ งานพิมพ์ก็ปัง! เปรียบเทียบอย่างละเอียดทุกแง่มุม ทั้งค่าใช้จ่าย ประสิทธิภาพ และความทนทาน พร้อมคำแนะนำสำหรับนักเรียน ออฟฟิศ และธุรกิจ
หลายคนคงเคยสงสัยว่าควรเลือกเครื่องพิมพ์ Inkjet หรือ Laser Printer ดี บทความนี้จะช่วยเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างเครื่องพิมพ์ทั้งสองประเภท เพื่อให้คุณสามารถเลือกเครื่องพิมพ์ที่เหมาะสมกับการใช้งานของคุณได้อย่างดีที่สุด
Inkjet vs Laser – เปรียบเทียบเบื้องต้น
ปัจจัย | Inkjet Printer | Laser Printer |
คุณภาพการพิมพ์ | ดีเยี่ยมสำหรับภาพสี | คมชัดสำหรับตัวอักษร |
ต้นทุนหมึก | สูง (หมึกหมดเร็ว) | ต่ำ (โทนเนอร์ใช้ได้นาน) |
ความเร็ว | ปานกลาง | เร็ว |
ความทนทาน | หัวพิมพ์มีโอกาสอุดตัน | ใช้งานได้นานกว่า |
เหมาะสำหรับ | งานพิมพ์สี, รูปภาพ, งานศิลปะ | งานเอกสารจำนวนมาก |
คุณภาพงานพิมพ์
- Inkjet Printer : โดดเด่นในเรื่องของคุณภาพงานพิมพ์สี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพิมพ์ภาพถ่ายและงานกราฟิกที่ต้องการความละเอียดสูง สีสันสดใส และความสมจริง เครื่องพิมพ์ Inkjet สามารถพ่นหมึกสีลงบนกระดาษได้อย่างแม่นยำ ทำให้ได้งานพิมพ์ที่มีคุณภาพสูง
- Laser Printer : เหมาะสำหรับการพิมพ์เอกสารที่มีตัวอักษรและกราฟิกเป็นหลัก โดยให้งานพิมพ์ที่คมชัด อ่านง่าย และมีคุณภาพสม่ำเสมอ เครื่องพิมพ์ Laser ใช้ผงหมึกในการพิมพ์ ทำให้ได้งานพิมพ์ที่ไม่เลอะเลือนและทนทานกว่า
ความเร็วในการพิมพ์
- Inkjet Printer : มีความเร็วในการพิมพ์ที่ปานกลาง เหมาะสำหรับการพิมพ์เอกสารที่ไม่เร่งด่วน หรือการพิมพ์ภาพถ่ายที่ไม่ต้องการความรวดเร็วมากนัก
- Laser Printer : มีความเร็วในการพิมพ์ที่สูง เหมาะสำหรับการพิมพ์เอกสารจำนวนมาก หรือการพิมพ์งานที่ต้องการความรวดเร็ว
ความทนทาน
- Inkjet Printer : หัวพิมพ์มีโอกาสอุดตันหากไม่ได้ใช้งานเป็นเวลานาน หรือหากใช้หมึกที่ไม่ได้มาตรฐาน
- Laser Printer : มีความทนทานสูงกว่า และมีปัญหาน้อยกว่า
หากยังไม่แน่ใจว่าเครื่องพิมพ์ Inkjet หรือ Laser เหมาะกับคุณที่สุด ลองดูการ เปรียบเทียบประเภทของเครื่องพิมพ์ เพื่อทำความเข้าใจความแตกต่างของเครื่องพิมพ์แต่ละประเภท

Inkjet vs Laser – เปรียบเทียบค่าใช้จ่ายระยะยาว
หลายคนมักมองแค่ราคาเครื่องตอนเริ่มต้น แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือค่าใช้จ่ายในระยะยาว ซึ่งประกอบด้วยหลายส่วนที่ต้องนำมาพิจารณา
1. ต้นทุนหมึก vs โทนเนอร์ : ใครประหยัดกว่ากัน?
- หมึก Inkjet : มีราคาสูงกว่าและหมดเร็วกว่าโทนเนอร์ Laser อย่างเห็นได้ชัด ทำให้ค่าใช้จ่ายต่อหน้าในการพิมพ์ของ Inkjet สูงกว่า Laser โดยเฉพาะการพิมพ์สีที่มีค่าใช้จ่ายสูงมาก
- โทนเนอร์ Laser : ถึงแม้ราคาตลับโทนเนอร์จะสูงกว่า แต่ปริมาณการพิมพ์ที่ทำได้มากกว่า ทำให้ค่าใช้จ่ายต่อหน้าต่ำกว่าหมึก Inkjet มาก นอกจากนี้ โทนเนอร์ยังทนทานกว่า ทำให้เอกสารที่พิมพ์ด้วย Laser เก็บรักษาได้นานกว่า
2. ค่าบำรุงรักษา : ใครทนทานกว่ากัน?
- Inkjet Printer : มีความซับซ้อนของหัวพิมพ์ ทำให้มีโอกาสอุดตันหรือเสียหายได้ง่ายกว่า ค่าซ่อมบำรุงจึงอาจสูงกว่า
- Laser Printer : มีความทนทานมากกว่า Inkjet ทำให้ค่าบำรุงรักษาในระยะยาวต่ำกว่า และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า
3. ค่าไฟฟ้า : ใครใช้พลังงานมากกว่ากัน?
- Inkjet Printer : ใช้พลังงานไฟฟ้าน้อยกว่า Laser Printer
- Laser Printer : ใช้พลังงานไฟฟ้ามากกว่า Inkjet เนื่องจากต้องใช้ความร้อนในการพิมพ์
4. การคำนวณ Total Cost of Ownership (TCO)
การคำนวณ TCO จะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมของค่าใช้จ่ายทั้งหมดตลอดอายุการใช้งานของเครื่องพิมพ์ ซึ่งประกอบด้วย
- ราคาเครื่อง : ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นในการซื้อเครื่องพิมพ์
- ค่าหมึก/โทนเนอร์ : ค่าใช้จ่ายในการซื้อหมึกหรือโทนเนอร์ตลอดอายุการใช้งาน
- ค่าบำรุงรักษา : ค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมและบำรุงรักษาเครื่องพิมพ์
- ค่าไฟฟ้า : ค่าใช้จ่ายในการใช้พลังงานไฟฟ้าของเครื่องพิมพ์
- ค่ากระดาษ : ค่าใช้จ่ายในการซื้อกระดาษสำหรับพิมพ์
ตัวอย่างการคำนวณ TCO (แบบง่าย)
รายการ | Inkjet (ประมาณ) | Laser (ประมาณ) |
ราคาเครื่อง | 3,000 บาท | 8,000 บาท |
ค่าหมึก/โทนเนอร์ (3 ปี) | 5,000 บาท | 3,000 บาท |
ค่าบำรุงรักษา (3 ปี) | 1,000 บาท | 500 บาท |
ค่าไฟฟ้า (3 ปี) | 500 บาท | 1,000 บาท |
รวม TCO (3 ปี) | 9,500 บาท | 12,500 บาท |
ข้อควรระวัง : ตัวเลขข้างต้นเป็นเพียงตัวอย่าง เพื่อให้เห็นภาพรวมของการคำนวณ TCO เท่านั้น ค่าใช้จ่ายจริงอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับรุ่นของเครื่องพิมพ์ ปริมาณการพิมพ์ และปัจจัยอื่นๆ
5. ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
นอกจากค่าใช้จ่ายแล้ว การเลือกเครื่องพิมพ์ยังส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมด้วย
- ปริมาณขยะ : ตลับหมึกและโทนเนอร์ที่ใช้แล้วเป็นขยะอันตราย การเลือกเครื่องพิมพ์ที่มีระบบการจัดการตลับหมึกที่ยั่งยืน หรือการเลือกใช้หมึก/โทนเนอร์รีฟิล จะช่วยลดปริมาณขยะได้
- การใช้พลังงาน : การเลือกเครื่องพิมพ์ที่ประหยัดพลังงานจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
คำแนะนำเพิ่มเติม
- ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับโปรแกรมการรีไซเคิลตลับหมึกของแต่ละยี่ห้อ
- พิจารณาเลือกเครื่องพิมพ์ที่มีฉลากประหยัดพลังงาน (เช่น Energy Star)
Inkjet vs Laser – แบบไหนเหมาะกับใคร?
การเลือกเครื่องพิมพ์ที่เหมาะสมกับการใช้งานนั้น นอกจากจะพิจารณาจากปัจจัยด้านค่าใช้จ่ายและประสิทธิภาพแล้ว ยังต้องคำนึงถึงลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกันของแต่ละบุคคลและองค์กรด้วย
Inkjet เหมาะกับ
- นักเรียน นักศึกษา : เหมาะสำหรับนักเรียน นักศึกษาที่ต้องการพิมพ์งานสีสวยงามในราคาประหยัด (แต่ต้องไม่พิมพ์งานในปริมาณมาก) เครื่องพิมพ์ Inkjet มักมีราคาเครื่องที่ถูกกว่า Laser Printer และสามารถพิมพ์ภาพสีที่มีคุณภาพสูงได้ดี อย่างไรก็ตาม หมึก Inkjet มีราคาแพงกว่าโทนเนอร์ Laser และอาจหมดเร็วกว่า ทำให้มีค่าใช้จ่ายต่อหน้าที่สูงกว่า
- ผู้ที่ทำงานด้านศิลปะ หรือต้องการพิมพ์ภาพถ่ายที่มีคุณภาพสูง : เครื่องพิมพ์ Inkjet มีความสามารถในการพิมพ์ภาพสีที่มีคุณภาพสูงและมีรายละเอียดที่คมชัด ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่ทำงานด้านศิลปะ หรือผู้ที่ต้องการพิมพ์ภาพถ่ายที่มีคุณภาพสูง

Laser เหมาะกับ
- ออฟฟิศ สำนักงาน : เหมาะสำหรับออฟฟิศ สำนักงานที่ต้องการพิมพ์เอกสารจำนวนมากด้วยความเร็วสูง เครื่องพิมพ์ Laser มีความเร็วในการพิมพ์ที่สูงกว่า Inkjet Printer มาก ทำให้สามารถพิมพ์เอกสารจำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ โทนเนอร์ Laser ยังมีราคาถูกกว่าหมึก Inkjet และสามารถพิมพ์ได้ในปริมาณที่มากกว่า ทำให้มีค่าใช้จ่ายต่อหน้าที่ต่ำกว่า
- ร้านค้า ธุรกิจ : เหมาะสำหรับร้านค้า ธุรกิจ ที่ต้องการพิมพ์ใบเสร็จ หรือเอกสารอื่นๆ จำนวนมาก เครื่องพิมพ์ Laser มีความทนทานและสามารถพิมพ์เอกสารได้ในปริมาณมาก ทำให้เหมาะสำหรับร้านค้า ธุรกิจ ที่ต้องการพิมพ์เอกสารจำนวนมาก
กรณีศึกษา
- เจ้าของร้านออนไลน์ : เจ้าของร้านออนไลน์ควรเลือกเครื่องพิมพ์ Laser ที่มีความเร็วในการพิมพ์สูง เพื่อพิมพ์ใบปะหน้าสินค้าจำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ เครื่องพิมพ์ Laser ยังมีความทนทานและสามารถพิมพ์เอกสารได้ในปริมาณมาก ทำให้เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการพิมพ์เอกสารจำนวนมาก
- ออฟฟิศที่มีเอกสารเยอะ : ออฟฟิศที่มีเอกสารเยอะควรเลือก Laser Printer เป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ เพราะสามารถพิมพ์เอกสารจำนวนมากได้อย่างรวดเร็วและมีค่าใช้จ่ายต่อหน้าที่ต่ำ นอกจากนี้ เครื่องพิมพ์ Laser ยังมีความทนทานและสามารถใช้งานได้นาน ทำให้เหมาะสำหรับออฟฟิศที่มีปริมาณงานพิมพ์มาก
สำหรับผู้ที่ต้องการตัวเลือกเครื่องพิมพ์ที่แนะนำ ลองดู รีวิว 10 เครื่องพิมพ์ Inkjet/Laser ที่ดีที่สุดในปี 2025 ซึ่งเราได้คัดสรรมาให้ตามงบประมาณและความเหมาะสมกับการใช้งานของคุณ
คำแนะนำเพิ่มเติม
- หากคุณต้องการพิมพ์งานสีที่มีคุณภาพสูง และมีปริมาณงานพิมพ์ไม่มากนัก เครื่องพิมพ์ Inkjet อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม
- หากคุณต้องการพิมพ์เอกสารจำนวนมากด้วยความเร็วสูง และมีค่าใช้จ่ายต่อหน้าที่ต่ำ เครื่องพิมพ์ Laser อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม
- หากคุณต้องการเครื่องพิมพ์ที่สามารถใช้งานได้หลากหลาย และมีฟังก์ชันที่ครบครัน ลองพิจารณาเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน (Multifunction Printer) ที่รวมฟังก์ชัน Print , Scan , Copy และ Fax ไว้ในเครื่องเดียว
สรุป
การเลือกเครื่องพิมพ์ที่เหมาะสมกับงานของคุณนั้น เป็นการตัดสินใจที่สำคัญ ซึ่งจะส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน ค่าใช้จ่าย และความพึงพอใจในการใช้งานในระยะยาว การพิจารณาปัจจัยต่างๆ อย่างรอบคอบ เช่น งบประมาณ ลักษณะการใช้งาน ฟังก์ชันพิเศษ ความเร็วในการพิมพ์ คุณภาพงานพิมพ์ และค่าใช้จ่ายระยะยาว จะช่วยให้คุณสามารถเลือกเครื่องพิมพ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้อย่างลงตัว